ทิศทางปี ๒๕๕๐
ผ่านปีใหม่มาจนจะครบเดือน แต่ฉันก็ยังไม่ได้วางแผนสำหรับปีนี้อย่างเอาจริงเอาจังเลย ว่าแล้วก็เอาซะหน่อย สิ้นปีจะได้มี ‘เช็คลิสต์’ กะเค้าว่าทำอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง เพื่อว่าจะได้มีกำลังใจพิทักษ์โลกในปีถัด ถัดไป
-๑-
ทำในสิ่งที่รัก รักในสิ่งที่ทำ
ตั้งแต่จบมาไม่ถึงปี ฉันก็เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น ไม่รู้เพราะโง่หรือฉลาดเกินไปถึงได้เลือกงานซะเหลือเกิน เริ่มตั้งแต่ฝึกงานซึ่งอาจเรียกได้เต็มปากว่า “ทำงาน” กับสองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านซิทคอมของประเทศไทย ตอนเรียนมหา’ลัยก็อยากหนักอยากหนา อยากเป็นคนเขียนบทซิทคอม เอาเข้าจริงแม้ใจจะยังรักงานที่ทำแต่ด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่พิลึกลั่นก็ทำให้ฉันแตกพ่ายไม่เป็นกระบวนท่า อพยบหลบหนีไปซบอกบริษัทเคเบิ้ลยักษ์ใหญ่ (ใหญ่อีกแล้ว) ซึ่งมีวัฒนธรรมและสังคมอบอุ่น เป็นกันเอง แต่ความต้องการของมนุษย์หามีจำกัดไม่ หลังจากตระหนักได้ว่ามีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่อื่นเสนอเงินเดือนให้ฉันมากกว่าครึ่งต่อครึ่งของที่นี่ แถมโปรโมชั่นพิเศษ ที่พักสุดหรู รถรับส่งส่วนตัว เบิกค่าน้ำมัน ค่าทางด่วนได้ พร้อมอื่น อื่นอีกมากมาย ความโลภก็เข้าครอบงำ ฉันตัดสินใจย้ายไปทำงานด้านสื่อและธุรกิจต่างประเทศแถวฉะเชิงเทรา และที่นั่นก็ทำให้ฉันถ่องแท้ในคำกล่าวที่ว่า “เงินไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถ้าใจไม่รักในงานที่ทำ” ฉันจึงตัดสินใจอีกหน แถนั่นแถนี่กับเจ้านายขอลาออก หลังจากนั้นก็ใช้เวลาขบคิดอยู่กับตัวเองถึงสองเดือนเต็ม ค้นหาจนพบว่าตนเองอยากลองของกับอาชีพ “เวดดิ้ง เพลนเนอร์” – เดือนที่จะถึงนี้ กุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรัก นับเป็นฤกษ์ดีที่ฉันจะได้เริ่มงานกับ ‘ชาร์แดงเดอลามูร์’ สตูดิโอแต่งงานสไตล์ฝรั่งเศส แน่นอนว่าคงจะต้องรอดูต่อไปว่าสิ้นปีนี้ฉันจะยังคงทำงานอยู่ที่เก่า และรู้สึก ‘ใช่’ ในงานที่ทำหรือยัง
-๒-
บ้านเจ้าคุณพ่อ
ความตั้งใจที่จะต้องทำให้ได้ในปีนี้คือ กลับไปเยี่ยมบ้านเจ้าคุณพ่อที่ชุมพรซักครั้ง ไหน ไหนก็หายเคืองกันแล้ว ขืนไม่ไปมีหวังมรดกร้อยล้าน ที่ดินอีกพันไร่ ได้กลายเป็นที่สาธารณะประโยชน์แน่ เอ้ย! ไม่ใช่ ขืนไม่ไปมีหวังได้ตัดขาดกันอีกรอบแน่ ดังนั้นจึงต้องไป ต้องไป
-๓-
ยอมอดเพื่ออ่าน
ไม่ว่าจะยากจนข้นแค้นเท่าไหร่ จะตกงาน หรือจะได้งานเงินเดือนน้อยนิด หรืออย่างไรก็ตามแต่ เป็นตายร้ายดียังไงก็จะตะบี้ตะบันซื้อหนังสือมาอ่านต่อไป เอาน่า อย่างน้อย น้อยที่สุด เดือนละหนึ่งเล่มก็ยังดี
-๔-
โซฟา : เพราะว่าเราห่างไกลกันเหลือเกิน
ตั้งแต่ซื้อบ้านใหม่ที่สัตหีบมาได้จะครบปีก็ยังไม่มีวี่แววว่าห้องนอนของฉันจะตบแต่งเสร็จซะที และคาดว่ามันจะค้างเติ่งแบบนี้ไปเรื่อย เรื่อย เริ่มตั้งแต่สีห้องที่ยังไม่ถูกใจซักเท่าไรนัก ทำให้อยากเปลี่ยนใหม่เป็นกำลัง ผ้าม่านที่ยังหาที่ถูกใจไม่ได้ ไฟผนังที่อยากได้เพิ่ม ชั้นวางทีวี ชั้นวางหนังสือ ล้วนแล้วแต่ยังไม่ได้ถูกนำมาจัดเรียงไว้ในห้อง รวมถึงโซฟานั่งเล่น ที่ยังไง้ ยังไง ห้องนอนของฉันก็จะต้องมีให้ได้ เพื่อสนองตัณหาของตัวเอง เอาล่ะ ตั้งเป้า ล็อคจุดหมาย อย่างอื่นไม่ค่อยสนเท่าไหร่ แต่เรื่องโซฟานี่สู้ขาดใจ ตามหาที่ถูกใจต่อไปนะไอ้มดแดง!
-๕-
โสด แอนด์ เดอะ ซิตี้
ไม่ว่าใครจะค่อนแคะว่าหาคนรักไม่ได้หรือว่าฉันขวางโลก ฉันก็จะยังคงนโยบายเดิม คือ ครองความโสดต่อไป สุขนิยมแบบอิสระเท่านั้นที่ฉันต้องการ สมัยอยู่ประถมเจ้าคุณพ่อเคยพูดให้ฟังว่า ‘ถ้าไม่แต่งงาน อายุสี่สิบจะเริ่มสบายและรวย” ไม่รู้ว่าท่านแฝงความนัยอะไรบางอย่างไว้หรือเปล่า แต่ฉันก็ยึดถือและเชื่อมาตลอดว่าถ้าฉันทำตามนี้ อย่างน้อยฉันก็จะสบายใจและร่ำรวยความสุข ต่อให้สกุล ‘ณ ธรรม’ จะสิ้นสุดลงที่ฉันก็ช่างปะไร ใครจะสน
-๖-
ร่างกายฟิต พิชิตโรคภัย
ข้อนี้ดูเหมือนจะทำได้ยากที่สุด แต่ฉันก็จะพยายาม โปรแกรมที่ตั้งไว้ให้ตัวเองสำหรับปีนี้คือ
- นอนไม่เกินตีหนึ่ง
- ตื่นไม่เกินเที่ยงวัน
- กินข้าวอย่างน้อยวันละสองมื้อน
- ซิทอัพอย่างต่ำวันละห้าสิบครั้ง
- ออกกำลังกายที่สวนสาธารณะอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง
เริ่มแก่แล้วก็ต้องรักษาสุขภาพให้มากขึ้น จะมาเรื่อย เรื่อย เปื่อย เปื่อย อย่างเมื่อก่อนคงไม่ได้ ใครสนใจไปสวนสาธารณะด้วยกันลงชื่อทิ้งไว้ หรือโทร หนึ่ง เก้า ศูนย์ ศูนย์ - หนึ่ง เก้า ศูนย์ ศูนย์ เรียก คิวว์ เพื่อตกลงวันเวลา ฉันแน่ใจว่าไปหลายคนย่อมจูงใจมากกว่าไปคนเดียวแน่นอน
-๗-
ใบขับขี่ ขอมีหน่อยเหอะ
แม้ว่าจะไม่มีแผนที่จะซื้อรถในปีสองปีนี้ แต่ทำใบขับขี่ไว้หน่อยคงไม่เสียหายอะไร เผื่อฉุกเฉินมาอาจต้องใช้ มีเกินไว้ยังไงก็ดีกว่าขาด
-๘-
ตีรันฟันคุด
ผลัดผ่อนไม่ยอมผ่าฟันคุดมานานเกินสองปี ด้วยเหตุผล ‘กลัวเจ็บ’ ตอนนี้ฟันเริ่มออกอาการผุ ขืนปล่อยข้ามไปอีกปี รู้ตัวอีกทีคงผุหมดปาก
-๙-
คืนกำไรสู่สังคม
ไม่นับรวมการให้เงินวณิพกบ้างตามสมควร ปีนี้จะพยายามช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้มากที่สุด อาจจะเป็นการไปช่วยเหลือคนตาบอดบ้าง เด็กถูกทอดทิ้งบ้าง อะไรก็ว่ากันไป ที่สำคัญจะปฏิบัติตามสโลแกนเดิมต่อไป ‘จงทำความดี อย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง’ ฟังดูเป็นคนดีเน้อ
เก้าข้อก็คงจะพอมั้งนะสำหรับทิศทางในปีนี้ ส่วนเป้าหมายอื่น อื่น ก็ถือซะว่าเป็นกำไรระหว่างปีละกัน ป่าวประกาศ มีพยานขนาดนี้ ถ้าทำไม่ได้จะอายเค้ามั้ยเนี่ยกู
จบเลยละกัน
สวัสดี
8 Comments:
เอ่อ ถ้าเธอแต่งงาน ตามปกติเธอก็ต้องใช้นามสกุลสามี แล้วสามีก็ต้องอยากให้ลูกใช้นามสกุลตัวเอง แล้วนามสกุล ณ ธรรมก็จะหายไปอยู่ดี
ถ้าสามีเป็นคนหัวอ่อน ยอมให้ใช้นามสกุลเดิม(ได้ป่าววะ) แถมยอมให้ลูกใช้นามสกุลภรรยาด้วย อาจจะแบ่งกัน คนนั้นนามสกุลชั้น คนนี้นามสกุลเธอ เหมือนชั่งผลไม้ขายไงไม่รู้
แต่ถ้าเธออยากให้นามสกุล ณ ธรรม สืบต่อไป โดยไม่ต้องมีสามี ก็มีทางเลือกอีกคือ
1. รับลูกบุญธรรม
2. ไปธนาคารสเปิร์ม แล้วหลังจากนั้นคิดเอง
แต่ถ้าเธอไม่แคร์ ก็ไม่ต้องสืบทอดหรอก ไม่เห็นมีประโยชน์
"ต่อให้สกุล ‘ณ ธรรม’ จะสิ้นสุดลงที่ฉันก็ช่างปะไร ใครจะสน"
โปรดฟังอีกครั้ง
ปล. กฎหมายนามสกุลมันประกาศใช้นานพอสมควรแล้วนะไม่ต้องมีวงเล็บว่า (ได้ป่าววะ) หรอก...
เฮียไม่บอก หนูจะได้เข้าไปเสียบแทน เงินเดือนน้อยกว่าเฮียครึ่งหนึ่งก็ได้ แต่ขอให้ "มีงานทำ" เหอะ
อิจฉาคนเลือกงานได้จังว่ะ -.-
ปล. เฮียทัก หนูไม่เคยได้อยู่หน้าจอเลยอ่ะ(นอน)มาดูอีกทีเฮียออฟไลน์ไปแล่ะ
ลป. ไมมีแต่คนว่าหนูมีหนวดวะ -.-''
wedding planner
เขารับจัดการทุกๆ อย่างเกี่ยวกับงานแต่งงานใช่ไหม
รวมถึงหาเจ้าสาวด้วยฤเปล่า?
:P
เรื่องคืนกำไรสู่สังคม
สนใจ "บ้านทอฝัน" ไหม?
พี่ไปทุกๆ ปี(ตั้งแต่ได้โอกาสครั้งแรก สมัยหนุ่มๆ)
มาปีนี้แหละ จะไม่ได้ไป เพราะอยู่ไกล
ปล. ที่ไปโพสท์ขอไอเอ็มไว้ที่บลอก
สารภาพว่า ไม่แน่ใจจริงๆ ว่า ไอเอ็ม คืออะไร ไม่เข้าใจศัพท์วัยรุ่นยุคนี้
อย่างไรก็แล้วแต่ ไป"ปล่อยของ"ไว้ที่โพสท์"ประกาศเกียรติคุณ"
ลองไปดูละกันนะ
กอร์นเอ๊ยย เฮียว่าความสามารถสูงแบบหนูหางานทำได้ไม่ยากหรอก
และถ้าหนูอยากได้เงินเดือนครึ่งเดียวของที่เฮียกำลังจะได้ หนูคงต้องยังชีพด้วยมาม่าวันละซองแล้วแหละ เพราะเงินเดือนเฮียตอนนี้น้อยเต็มที
เฮียกะว่าจะให้พ่อทำรัฐประหาร เผื่อเฮียจะได้เป็นนายกและรวยกับเค้าบ้าง
ปล. มีคนเคยบอกเฮียว่า คนมีหนวดมักจะนมโต อันนี้เฮียไม่ได้หยาบคาย แค่เล่าให้ฟัง
ยังกับ บริเจต โจนส์ มีกำหนดเป้าหมายของปีด้วย แต่กลับกัน อันนั้นเค้ามุ่งเน้นที่จะได้แต่งงาน แต่ของน้องคิวว์มุ่งเน้นที่จะอยู่บนคาน หึ หึ
แสร่ดดดดดดด ผัวแม่มก็ว่างี้ =[]=''
ข้างบนนั่นใช่กอร์นใช่มั้ย เฮียสับสน
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home