...

October 04, 2006

Love Letter

จดหมายรัก



เชื่อว่าในชีวิตของคนหนึ่งคนจะต้องเคยได้รับจดหมายรักอย่างน้อยหนึ่งฉบับ
หรือไม่ก็เป็นคนทำมันขึ้นมาเองอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ไม่เว้นแม้แต่คนประหลาดเช่นผม...


ผมเขียนจดหมายรักไม่เก่ง และไม่ถนัดที่จะรับเช่นกัน
กองจดหมายรักเก่าๆ ที่ค้นเจอในกล่องจดหมายเก่าเก็บจึงสร้างความประหลาดใจให้กับผมเป็นอันมาก
ใครจะคาดคิดว่าคนเยี่ยงผมจะเป็นที่น่าสนใจของสังคมถึงปานนี้


ในกล่องจดหมายนั้นมีทั้งสื่อรักจากเด็กผู้หญิง รุ่นพี่ผู้หญิง เพื่อนผู้หญิง เพื่อนผู้ชาย รุ่นพี่ผู้ชาย รุ่นน้องผู้ชาย และกระเทย ขาดก็แต่จดหมายรักจากทอมเท่านั้น
น่าเสียดายที่ไม่มี มิเช่นนั้นคงได้จัดนิทรรศการให้รู้แล้วรู้รอดกันไป


แปลก
ผมไม่ใช่คนหน้าตาดี ไม่ใช่คนมีเสน่ห์ นิสัยรึก็ออกจะกวนตีน
ขวานผ่าซากก็เท่านั้น ไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นก็เท่านั้น
ที่เห็นจะพอมีดีอยู่บ้างก็ตรง ปากดี นี่แหละ
ไม่เข้าใจว่าพวกเขาเหล่านั้นคิดอะไรกันอยู่
คนอย่างผม ให้เปล่าผมยังไม่เอาเลย


ใครจะเชื่อว่าผมเคยได้รับจดหมายรักจาก หลีดมหา'ลัย จากเพื่อนเก่าแก่ จากคนแปลกหน้า จากเพื่อนใหม่ที่คุยกันไม่กี่ประโยค จาก จาก จาก...
หลายคนอดทนพยายาม "สื่อรัก" กว่าเจ็ดแปดปี
หลายคนเลิกติดต่อไปด้วยโดนทำลายน้ำใจจากผม แต่แล้วก็กลับมาพยายาม "บอกรัก" อีกหน
ผมว่ามันเป็นการกระทำที่งี่เง่ามาก
อาจจะฟังดูแรงแต่ผมก็คิดของผมอย่างนี้จริงๆ


ตัวละครจากหนังสือเรื่อง "ความสุขของกะทิ" กล่าวไว้ว่า
"อย่าดูหมิ่นความรักของใครเป็นอันขาด"
อย่างว่าแหละ ผมมันนิสัยเสียเสียด้วยสิ
การพยายามไม่ดูหมิ่นความรักจึงเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับผม


ตามคำกล่าวที่ว่า "ผมไม่รู้ว่ารักคืออะไร แต่ผมรู้ว่าอะไรไม่ใช่รัก"
การส่งจดหมายรักถึงผมมันจึงเหมือนการรินน้ำลงไปในแก้วที่ไม่มีก้น
ไม่มีทางได้น้ำดื่ม คุณก็รู้


ความรัก เป็นสิ่งสำคัญ?
เป็นสิ่งสามัญ?
มันมีจริงหรือไม่?
แล้วโลกจะได้รับสิ่งใด?
จากคนสองคนที่มีโลกส่วนตนเพียงแค่กันและกัน

ปราศจากความรักเด็กยังคงเกิดมาสมบูรณ์ดี
ประชากรดาวเดราห์ในรอบล้านปีเพิ่มอัตรา
อาจไม่ต้องพึ่งพาความรักแม้นิดเดียว

ปล่อยให้ผมที่ไม่เคยมีความรัก
ปฏิเสธที่จะพานพักตร์
กับคนที่มอบความรักให้ต่อไป
ปล่อยให้ผมพร่ำเพ้อต่อไปเถอะว่า
ความรักไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไร
เพราะสิ่งที่ผมเชื่อจะช่วยทำให้ชีวิตเป็นเรื่องง่าย
ในการที่จะอยู่ หรือ...ตาย



ด้วยความไม่รัก

สวัสดี



* แรงบันดาลใจจากบทกวีของ Wisalawa Szymborska ฉบับแปลโดย ปราย พันแสง*