...

July 31, 2006

Sex

ปูมที่ 310706

Joke of the day :

หนุ่มนักศึกษาจบใหม่ไปสมัครงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ด้วยความที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเท่าไหร่ เขาจึงมีปัญหากับการกรอกใบสมัครที่มีข้อความบางส่วนเป็นภาษาอังกฤษ

เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเดินมาเจอตอนที่เขากำลังกรอกข้อความ "อาทิตย์ละ2-3ครั้ง" ลงในช่อง "SEX" พอดี

"ไม่ใช่อย่างง้าน..." เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหัวเราะก๊าก "เอาแค่ว่าชายหรือหญิงก็พอ"

ไอ้หนุ่มยิ้มเขินๆก่อนขีดฆ่าข้อความเดิมแล้วเขียนลงไปใหม่ว่า "ไม่เกี่ยง"






ขอความสุขสวัสดิ์จงมีแต่มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้

สวัสดี...


หมายเหตุ : โปรดทราบ ความสำคัญอยู่ที่ภาพ เนื้อหาเป็นแค่ตัวประกอบ

July 28, 2006

Whack your boss

ปูมที่ 280706

เคยเล่น whack your boss มานานนม แต่ไม่เคยสะใจเท่าวันนี้เลย !!












สวัสดี

July 20, 2006

I am 100% Thai

ปูมที่ 200706

ไม่ชอบใจที่เห็นคนไทยไม่ชอบใช้ภาษาไทย ทั้งงานเขียนต่างๆ ทั้งการโพสข้อความลงอินเตอร์เน็ต รวมถึงการพูดการจาไทยคำฝรั่งคำคำ ไม่รู้ว่ามันทำให้โก้ ให้เก๋ ดูดี มีชาติตระกูลตรงไหน เคารพบูชากันนักนี่ไอ้ภาษาตาน้ำข้าวเนี่ย ท่าทางคงจะลืมไปสินะว่าคนไทยเป็นเชื้อชาติเดียวที่สื่อสารด้วยภาษาไทยเป็น และเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่มีภาษาราชการคือภาษาไทย!

การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อรู้ เพื่อที่จะได้ฟังที่ชาวต่างชาติสื่อสารความคิด ความรู้ และสามารถสื่อสารกลับได้ มันก็ดีอยู่หรอก จะได้เข้าใจความคิดความอ่านของคนอื่นมากขึ้น แต่ไอ้การที่คิดว่าข้าเจ๋ง ข้าเก่ง ข้าพูดอังกฤษได้ แล้วไม่สน ไม่อยากพูด ไม่อยากเขียนภาษาพ่อภาษาแม่นี่พอได้แล้วเหอะ เห็นแล้วสงสารโคตรเหง้าบรรพบุรุษ บรรพสตรี ที่ช่วยกันหลั่งเลือดเนื้อปกป้องภาษา ปกป้องดินแดนบิดๆเบี้ยวๆนี้เอาไว้

ประชากรทั่วโลกตอนนี้มีทั้งหมดประมาณ 7พันล้านคน เป็นคนไทยซะ 63ล้านคน คิดเป็นเปอร์เซ็นประชากรไทย 0.9% (นี่ยังไม่หักลบคนจีน คนพม่า คนมาเล คนลาว ฯลฯ ที่มีสัญชาติไทยในภายหลังนะ) ป้าดดดโธ่! มีคนใช้ภาษาไทยอยู่ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นของโลก ยังจะมาสะดีดสะดิ้งไม่สนใจพูด ไม่สนใจเขียนอีก ไอ้พวกนี้นี่ช่างกล้า!! คอยดูเหอะซักวันคำพูดที่ว่า "อ๋อ ประเทศไทย ประเทศที่เคยมีภาษาเป็นของตัวเองน่ะเหรอ" จะกลายเป็นเรื่องปกติ!

จำไว้นะ ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้อย่ามากระแดะคุยกับข้าพเจ้าเป็นภาษาอังกฤษ ข้าพเจ้าเป็นคนไทย ยินยอมสื่อสารด้วยภาษาไทยเท่านั้น...ไอ้พวกคนไทยที่อาศัยอยู่บนแผ่นนี้ก็ควรจะสำเนียกเอาไว้ เดินชนฝรั่งในแผ่นดินสยามห้ามเอ่ย Sorry เป็นอันขาด จำไว้ คนไทยเค้าพูดเป็นแต่ "ขอโทษครับ/ค่ะ"

ปล. ที่ใช้ชื่อหัวข้อทุกวันๆเป็นภาษาอังกฤษนี่ก็เพราะหาทางแก้ font ไทยให้ตัวใหญ่อ่านง่ายไม่ได้หรอกนะ ไม่ได้บ้าน้ำลายฝรั่ง!!


สวัสดี...

July 11, 2006

So close but can't reach...

ปูมที่ 110706

วินาทีนี้หากไม่เอ่ยถึงบอลโลก คงจะดูตกยุคกระไรอยู่ แต่สิ่งที่จะกล่าวถึงในวันนี้หาใช่เรื่องที่ว่าทีมใดคว้าแชมป์ Fefa World Cup ไปในปีนี้ เพราะเรื่องนี้นั้นทางสำนักข่าวทั่วโลกคงจะประโคมข่าวให้ทราบทั่วกันแล้วว่าทีมอัซซูรีได้กลับมาผงาดคว้าแชมป์อีกครา (55++ ขอหัวเราะด้วยความสะใจพอเป็นพิธี) หากแต่สิ่งที่จะเอ่ยถึงคือสิ่งที่คนทั้งโลกยังคงคลางแคลงใจ... เกิดอะไรขึ้นกับ Zinédine Zidane? Materazzi พูดอะไรกับเขา หัวล้านๆจึงได้พุ่งไปโขกใจกลางหน้าอก ทำเอาอีกฝ่ายลอยละลิ่วหงายเก๋ง ขณะที่ Zidane เองก็โดนใบแดงลอยละลิ่วปลิวออกจากสนามไปเช่นเดียวกัน...

หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นทั้งสองฝ่ายต่างปิดปากเงียบ ไม่ยอมแถลงข่าวใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้านกระแสข่าวเมืองน้ำหอมเชื่อว่า Zidane อาจจะโดน Materazzi สบประมาทแม่ ขณะที่แหล่งข่าวในอิตาลีกลับเชื่อว่า กองหลังของตนอาจจะต่อว่าอดีตนักเตะวัย 34 ปี ว่าเป็นพวกผู้ก่อการร้ายซึ่งหมายความไปถึงชาวแอลจีเรีย ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของ "ซิซู"นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีบางแหล่งข่าวเชื่อว่าสาเหตุที่นักเตะใจเย็นอย่าง Zidane กล้ากระทำการอุกอาจจนถึงขั้นโดนใบแดงไล่ออกจากสนามนั้นอาจจะเนื่องมาจากโดนเหยียดสีผิวก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่แฟนบอลชาวเมืองน้ำหอมกล่าวอ้างว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทีมของตนชวดแชมป์โลกในปีนี้ และถึงแม้ว่าการกระทำของ Zinédine Zidane ในครั้งนี้จะไม่ถูกแบนและไม่แม้แต่จะถูกปรับ (และเขายังได้รางวัลลูกบอลทองคำมาเป็นของแถม) แต่นั่นก็ทำให้เขาปิดฉากการค้าแข้งระดับโลกไปอย่างไม่สวยงามนัก ว่ากันว่าภาพที่ Classic ที่สุดของบอลโลกในครั้งนี้ก็คือ ภาพที่ Zidane เดินผ่านถ้วยรางวัลไป ....ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่ช่างดูแสนไกล... วินาทีนี้คงจะไม่มีเพลงไหนเหมาะสมกับเขาเท่ากับเพลงนี้อีกแล้ว...


ขอความสุขสวัสดิ์จงมีแด่ Macro Materazzi Man of the match ตัวจริง

สวัสดี...

ปล. สามารถเล่นเกมซีดานโขกหัวได้ที่ http://widelec.org/zidane.html

July 08, 2006

080706

ปูมที่ 080706

วันนี้เลขสวยมากมาย โดยเฉพาะเวลา 11.10.09 08.07.06 แปลเป็นไทยได้ว่า เวลา สิบเอ็ดนาฬิกา สิบนาที เก้าวินาที วันที่แปด เดือนเจ็ด ปีศูนย์หก เอ๊า เลขสวยจริงๆนะเออ แถมจับเลขมาบวกกัน 0+8+0+7+0+6 = 21 - - 2+1 = 3 อ่ะนั่นแน่ ผลลัพธ์สุดท้ายออกมาเป็นเลขโปรดซะด้วย...

"สิ่งเล็กๆน้อยๆบางอย่าง ถ้าเราสังเกตเห็น บางทีก็นำความสุขมาให้ได้นะเออ "

ขอความสุขสวัสดิ์จงมีแด่ผู้ที่คิดค้นวิธีใช้ตัวเลขในการนับเวลา

สวัสดี...

July 07, 2006

Secret melody?

ปูมที่ 060706

ทุกครั้งที่หยิบซีดีขึ้นมาฟัง ความสงสัยบางอย่างจะผุดขึ้นทุกคราไป...

ซีดีอัลบั้ม Fever To Tell ของวง Yeah Yeah Yeah แผ่นนี้มีทั้งหมด 11 เพลง นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก ที่แปลกคือไอ้เจ้าเพลงที่ 11 ของแผ่นนี้แหละที่ทำให้สงสัยว่า ตกลงอัลบั้มนี้มันมี 11 หรือ 12 เพลงกันแน่?
จะว่าไปก็คือ ท่วงทำนองของเพลง Modern Romance ซึ่งเป็นเพลงที่ 11 จะจบลงที่นาทีที่ 3.10 ตามแบบฉบับของเพลงทั่วไป หลังจากนาที่ที่ 3.10 เสียงเพลงจึงเฟดเงียบลงคล้ายว่าจะจบ แต่เดี๋ยวก่อน ท่วงทำนองที่ขาดหายไปจะปรากฎขึ้นอีกครา....
นาทีที่ 4.29 ท่วงทำนองแห่งเสียงจะดังขึ้นเบาแสนเบา เป็นอีกท่วงทำนองหนึ่ง ราวกับเป็นคนละเพลงกับเพลงเมื่อซักครู่ แน่นอนว่าทั้งสองท่วงทำนองนั้นแตกต่างกันลิบลับ ทั้งเนื้อหาและอารมณ์ของการเปล่งเสียงร้อง... พลิกไปดูหลังปกซีดีอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันว่ามันมี11 เพลง ? ใช่ หลังปกยืนยันความคิดนั้นได้เป็นอย่างดี หรือว่าการทำเพลงแบบนี้มันจะเป็นเสน่ห์เป็นคอนเซปท์ที่แตกต่างจากเพลงทั่วไป? ไม่เอาน่า ใครที่ไหนเค้าจะเว้นช่วงห่างถึง 1 นาที กับอีก 19 วินาที เพื่อให้คนฟังเสียอารมณ์?

เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งหาคำตอบกับซีดีแผ่นนั้น เพราะไม่เฉพาะซีดีของ Yeah Yeah Yeah วงร็อกชื่อดังเท่านั้น ที่มีท่วงทำนองที่หลบซ่อน หากใครมองว่าการเฟดเงียบ 1.19 นาที เป็นเรื่องแปลก ลืมความคิดนั้นไปได้เลย เพราะซีดีของวง LFO บอยแบนด์เพลง PoP ก็มีเรื่องทำนองนี้เช่นกัน...

ขณะนี้ซีดีแผ่นบ้านี้ไม่ได้อยู่ในมือจึงไม่สามารถจดจำรายละเอียดทั้งหมดได้ว่าตัวเลขที่ถูกต้องเป็นเช่นไร แต่คร่าวๆคือ สมมติว่าทั้งอัลบั้มมี 12 เพลง สมการที่ถูกต้องคือเวลาที่เราเอาแผ่นซีดีไปรันบนเครื่องเล่น เครื่องจะต้อง Search เจอ 12 เพลง right?
เปล่าเลย สิ่งที่เจอคือ 56 เพลง ไม่ก็ 69 เพลงอะไรทำนองนี้แหละ เพลงบ้าที่ไหนที่จะบรรจุได้ในซีดี 1 แผ่นเยอะขนาดนั้น (ไม่ใช่ MP3 ซะหน่อย) ดังนั้น ทุกครั้งที่จบเพลงสุดท้าย ท่วงทำนองจึงเงียบหายไป ใช่สิ ที่ถูกมันควรเป็นแบบนั้น.. ทุกครั้งที่จบเพลงสุดท้ายหลายคนจึงมักจะกดครื่องเล่นซีดีให้เล่นเพลงแรกใหม่เสมอ ช่างเป็นซีดีแผ่นที่ทรมานเหลือเกินในการฟังซ้ำหลายรอบ เพราะมันไม่สามารถวนloop ให้ได้...
หลายอาทิตย์ผ่านไป ขณะที่ทำกำลังความสะอาดบ้านไป ฟังซีดีLFO แก้ง่วงไป ก็เกิดอาการง่วนกับงานตรงหน้าจนลืมไปว่ากำลังฟังเพลงไปด้วย เมื่อเสียงเพลงเงียบหาย แน่นอนว่าไม่ได้เดินไปกดเพลงให้รันเพลงแรกใหม่ เครื่องจึงรันเสียงเงียบไปเรื่อยๆ เพลงแล้วเพลงเล่า จนกระทั่งถึง......เพลงสุดท้าย....
เสียงเพลงแปลกประหลาด ด้วยท้วงทำนองที่ไม่เคยได้ยิน หากแต่เป็นเสียงของ LFO แผดดังขึ้น!! ไวเท่าความคิด เท้าสาวไปหากองซีดี มือควานหยิบ ตามองด้วยความกระหายใคร่รู้! สิ่งที่สมองประมวลผลได้คือ "ไม่มีเพลงนี้ในสารระบบรายชื่อเพลง!!!!!!!" โทรไปหาเพื่อนที่ซื้อซีดีอัลบั้มนี้เช่นกัน ผลปรากฎคือ มันไม่เคยฟังเพลงที่ว่าเลยแม้แต่ครั้งเดียว!!!! แล้วเพลงที่คนคนหนึ่งคนนี้ได้ยิน เพลงที่จนถึงทุกวันนี้ ทุกครั้งที่คนคนหนึ่งเปิดก็จะได้ยินเรื่อยไป (ถ้ารอฟัง) มาจากไหน???

ขอความสุขจงมีแด่ผู้ที่ได้ฟังท่วงทำนองที่หลบซ่อนทุกคน

สวัสดี...